โคตรกองหลังอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ถูกสื่อในอังกฤษยกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีคสำหรับฤดูกาลนี้ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่จะเป็นแบบนั้นสำหรับโคตรกองหลังรายนี้

          เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังโคตรเหนี่ยวของลิเวอร์พูลที่ตอนนี้หาตัวจับได้ยากเลยแหละถือว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าสำหรับพรีเมียร์ลีคอังกฤษที่เขาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกนัดที่ลงสนามและเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เสียประตูได้ยากมากสำหรับฤดูกาลนี้และที่สำคัญคือการที่พาทีมเข้ารอบ 8 ทีมของ UCL ถึงถิ่นเสือใต้เลยก็ว่าได้ จนทำให้สื่อทั้งหลายรวมทั้งนักเตะให้การยอมรับในปราการหลังรายนี้ที่เป็นขุมกำลังหลักในแผงหลังขอหงส์แดงลิเวอร์พูลในยุคนี้อีกด้วยซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ตัวเขาแล้วว่าค่าตัวที่ ลิเวอร์พูล จ่ายไปนั่นมันคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้มาอย่างไม่ต้องสงสัย และเขาเองก็ได้ลบคำสบประมาทเหล่านั้นไปเรียนร้อยแล้วด้วยผลงสานที่เขาได้แสดงออกมานั่นเอง

         สื่อกีฬาของประเทศอังกฤษออกมาพูดถึงสิ่งที่น่าอัศจรรย์ของนักเตะปราการหลังรายนี้เขาเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาสามารถควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในมือเขาได้อย่างไม่มีอะไรที่จะไปทำให้เขาเสียสมาธิได้ จนสื่อหลายสำนักยกให้เขาเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีคอังกฤษแม้ว่าสุดท้ายแล้ลิเวอร์พูลจะไม่ได้แชมป์ แต่มันก็ไม่ได้ลดความสามารถของเขาที่ทำผลงานออกมาได้ดี เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เป็นนักเตะที่มีความถ่อมตนเสมอจะเห้นได้จากหลายครั้งที่เขาทำในสนามทุกครั้งที่เขาสกัดบอลเขาพุ่งที่บอลอย่างขาวสะอาดไม่ได้มีนอกเกมส์ให้เห็นแต่อย่างใด นั่นคือสิ่งที่ เขาได้ทำและมันถูกต้องสำหรับฟุตบอล

        เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้ตกลงร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาววันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2018 ด้วยค่าตัวราว 75 ล้านปอนด์ซึ่งจะกลายเป็นสถิติค่าตัวสูงที่สุดในโลกของผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังศึก เอฟเอคัพ รอบสาม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรกและทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 4 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วูลฟ์แฮมตันวันเดอเรอส์ ที่สนามกีฬาโมลีนิวส์ 2-0 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนธันวาคมของพรีเมียร์ลีก ต่อมา   เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0 ต่อมา ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก ที่อัลลีอันทซ์อาเรนา 3-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาเยิร์นมิวนิก 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ